Support
www.toptotoetown.com
083-803-5562
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

เบต้ากลูแคนกับการบำบัดโรคต่างๆ

healthup2u@gmail.com | 20-01-2556 | เปิดดู 5581 | ความคิดเห็น 0

เบต้ากลูแคน 1,3-1,6:
เบต้ากลูแคน มหัศจรรย์เพื่อคุณภาพชีวิตคุณ

“ภูมิคุ้มกัน” สำคัญไฉน?

“ภูมิคุ้มกันในร่างกาย” อาวุธประจำตัวสำหรับต่อสู้กับเชื้อโรค! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ของมนุษย์เรา มีความสำคัญต่อสุขภาพ มากกว่าสิ่งใด อาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหลาย ตั้งแต่ไข้หวัดเล็กๆ
ไปจนถึงมะเร็งขั้นร้ายแรงก็เกิดขึ้นจาก “ภูมิคุ้มกันในร่างกาย” ของเราอ่อนแอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถ
ผลิตสาร เพื่อกำจัดเชื้อโรคหรือเซลล์ผ่าเหล่าที่ลุกล้ำเข้ามาในร่างกายเราได้

“ภูมิคุ้มกันในร่างกาย” ทำงานเหมือนเป็นกองทัพทหาร เซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆที่อยู่ในร่างกายเรา
ล้วนทำงานแตกต่างกันไป ตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง
“ภูมิคุ้มกันในร่างกาย” จะทำงานวนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆทุกครั้งที่พบกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมใดๆ
“ภูมิคุ้มกันเป็นเสมือนอาวุธหลัก ที่มนุษย์ใช้ต่อสู้ กับเชื้อโรคนานาชนิด หากอาวุธใช้งานได้ไม่เต็มที่
ร่างกายก็จะต้องเจอกับบาดแผล ที่หากโชคดีก็อาจจะรักษาได้ หรือโชคร้าย ก็ไม่มีทางรักษา

ดังนั้นทุกคนควรปกป้องรักษาภูมิคุ้มกันในร่างกายของตนให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้กับ
เชื้อโรคที่จะมาเยือนเมื่อไร…คุณเองก็ไม่รู้

การทำงานของ เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6” กับการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับ เบาหวาน
เบต้ากลูแคนจัดเป็นใยอาหารที่ละลายน้ำชนิดหนึ่ง การรับประทานเบต้ากลูแคนในปริมาณ
ที่เหมาะสมจะช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เพราะความหนืดของใยอาหารทำให้การดูดซึม
ของอาหารในเลือดช้าลง ซึ่งจะลดระดับความต้องการของอินซูลินได้ และเบต้ากลูแคน
ยังมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูการทำงานของตับอ่อน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับโรคเอดส์หรือ HIV
มีรายงานการวิจัยหลายรายงานที่รายงานถึง เบต้า-กลูแคนต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายว่า
สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายได้ แต่อย่างไรก็ดีเบต้า-กลูแคนไม่สามารถป้องกัน
การติดเชื้อ HIVได้แต่อย่างใด เพราะการติดเชื้อไม่ได้มาจากอาหารแต่มาจากพฤติกรรม
การร่วมเพศ และการติดต่อทางสารคัดหลั่งอื่นๆ แต่พบว่ามีรายงานถึงผู้ป่วยโรคเอดส์
สามารถลดการเกิดการติดเชื้อฉวยโอกาสได้เมื่อได้รับเบต้า-กลูแคน แต่กลไกการออก
ฤทธิ์ยังไม่แน่ชัดคาดว่าน่าจะมาจากการที่เบต้า-กลูแคนสามารถกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกัน
ผู้ป่วยทำงานได้ดีขึ้นทำให้ต่อต้านกับสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น จึงทำ
ให้มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นนั่นเอง และจากรูปจะเห็นเชื้อที่ทักพบได้บ่อยในผู้ป่วยเอดส์ก็คือ
การติดเชื้อราที่ชื่อว่า แคนดิด้า ซึ่งเชื้อราประเภทนี้พบได้บ่อยในช่องปากของคนปกติจะ
ไม่ก่อให้เกิดโรคแต่ในผู้ป่วย HIV นั้นจะเห็นว่ามีการก่อโรคทำให้เกิดการลอกตัวขาวของ
เยื่อบุช่องปากอันเป็นผลทำให้ร่างกายผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ นำไปสู่การ
ขาดสารอาหารและติดเชื้อฉวยโอกาสเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น

โดยได้มีรายงานการวิจัยของ Sato K และคณะ พบว่า เบต้า กลูแคนที่มาจากยีสต์
สามารถส่งข้อมูลกระตุ้นเม็ดเลือดขาวที่ชื่อว่า neutrophil และ leukocyte
ทำให้สกัดเชื้อราดังกล่าวได้  และนอกจากนี้โครงสร้างผนังเซลล์ของยีสต์ที่ให้
เบต้า กลูแคน เป็นสิ่งมีชีวิตตระกูลใกล้เคียงกับ เชื้อแคนดิด้า ทำให้กระตุ้นร่างกายผู้ป่วย
ให้สร้างสารภูมิคุ้มกัน(anti-body) เข้ามาคอยช่วยป้องกันการติดเชื้อดังกล่าวได้อีกกลไก
หนึ่งด้วย

เบต้ากลูแคนช่วยลดการติดเชื้อฉวยโอกาสที่เป็นปัญหาทำให้เกิดการเสีย
ชีวิตสำคัญของผู้ป่วยโรคเอดส์ ได้แก่
- Staphylococcus aureus ทำให้เกิดท้องเสีย อาหารเป็นพิษ และปอดบวมได้
- Candida albican ทำให้เกิดแผลในช่องปาก
- Pneumocystis carinii ทำให้เกิดโรคปอดบวม
- Listeria monocytogenes ทำให้เกิดโรค listeriosis ปอดบวม และแท้งลูกได้
- Influenza virus ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมได้
ดังนั้นการป้องกันโรคเอดส์ที่ดีที่สุดอยู่ที่ Safe sex และการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเสมอ
ไม่ทำตัวเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากอยู่ในภาวะเสี่ยงก็ต้องรู้จักป้องกัน และเมื่อเป็นแล้วควร
พบแพทย์ได้รับยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งเพราะหากคลาดเคลื่อนเวลารับประทานยาไม่
กี่นาทีก็ทำให้เชื้อ ดื้อยาได้ และที่สำคัญ ควรดูแลด้านอาหารให้ร่างกายได้รับอาหารที่เป็น
ประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เพิ่มภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่จำเป็นกับผู้ป่วยมากที่สุด

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับ มะเร็ง
เป็นสารปรับระดับภูมิต้านทานโรค ช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์
ภูมิต้านทานของร่างกาย เมื่อเบต้ากลูแคนสัมผัสกับบริเวณเนื้อเยื่อหุ้มลำไส้ระบบประสาท
พาราซิมพาเตติกจะเริ่มทำงาน ส่งผลต่อเซลล์ภูมิต้านทานและเซลล์เม็ดเลือดขาวใน
ร่างกายซึ่งจะทำหน้าที่สร้างสารไซโตไคน์ (Cytokine) เพื่อฆ่าและทำลายโครงสร้าง
เซลล์มะเร็ง อีกทั้งยังช่วยลดและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย (อนุมูลอิสระเป็น
สารรบกวนการเจริญเติบโตและการทำงานของเซลล์ปกติ)

ดังนั้นผลจากการรับประทานเบต้ากลูแคน คือ เนื้องอกของมะเร็งจะค่อยๆ ลดขนาดเล็ก
ลงและเซลล์มะเร็งที่เกิดใหม่จะลดลงด้วย นอกจากนี้การรักษามะเร็งด้วยวิธีต่างๆเช่น
ผ่าตัดศัลยกรรม รังสีรักษา หรือ เคมีบำบัดจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงหลายประการแก่
ผู้ป่วยการทานเบต้ากลูแคนควบคู่กับการรักษาจะช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยพร้อมรับการ
รักษาได้ดีและสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับ โรคไต
โดยทั่วไป ผู้ป่วยโรคไตจะต้องมีข้อปฏิบัติที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยง
ของอาการจากโรคไต เบต้ากลูแคนสามารถช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมสภาพร่างกายให้อยู่ใน
สภาพที่พร้อมรับการบำบัดได้ เช่นผู้ป่วยโรคไตที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะทำให้
หลอดเลือดแดงแข็งตัวและทำให้เลือดไม่สามารถเดินทางไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไตได้ เบต้ากลู
แคนจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ (ดูที่โรคเบาหวาน) หรือ หากผู้ป่วยสามารถเพิ่ม
ระดับการทำงานของภูมิต้านทานร่างกายให้มีการตื่นตัวอยู่เสมอ จะช่วยลดการติดเชื้อ
ที่ทางเดินปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสามารถจัดการกับเชื้อโรคที่เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว และ
ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่อวัยวะอื่นๆ

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับ ภูมิแพ้
เบต้ากลูแคนทำหน้าที่ปรับระดับภูมิต้านทานโรคที่รวนผิดปกติ ยับยั้งปริมาณการสร้างสาร
แอนติบอดี้ เมื่อเบต้ากลูแคนถูกดูดซึมที่เยื่อบุผนังลำไส้ส่งผลให้ระบบประสาทสั่งการและ
เซลล์ภูมิต้านทานจะเริ่มทำงานกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาว
ไม่ให้ทำงานหนักและยับยั้งการปล่อยอนุมูลอิสระออกมาทำร้ายเซลล์ร่างกาย จึงบรรเทา
การตอบสนองที่ผิดปกติและฟื้นฟูภูมิต้านทานได้

นอกจากนี้เบต้ากลูแคนในรูปเจลที่มีน้ำมากจึงมีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้น
รักษาผิวจากความแห้ง และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ผิวทั้งยังสามารถทาบริเวณ
บาดแผลจะบรรเทาอาการ ผื่น คันผิวหนังอักเสบได้

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”  กับ โรคกรดไหลย้อน
เบต้ากลูแคนสามารถช่วยลดภาวะกรดไหลย้อน โดยเบต้ากลูแคนจะไปจับกรดเกลือ
(HCL) ในกระเพาะอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมาที่บริเวณหลอดอาหาร
และมีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อ H. pylori ที่สามารถเจริญและทนสภาวะกรดใน
กระเพาะอาหารอันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อนำไปสู่โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร
สำหรับผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีการรับประทานยากลุ่ม PPIs แนะนำให้เว้นช่วง
ระยะเวลาการรับประทานเบต้ากลูแคนห่างกับยา PPIs นานประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อ
ป้องกันการจับตัวกันระหว่างเบต้ากลูแคนกับยา PPIs และให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพ

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”   เพื่อสุขภาพผิว
เบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติเป็นใยอาหารละลายน้ำ ดังนั้นจึงสามารถเก็บกักและอุ้มน้ำไว้ใน
โครงสร้างของมัน ช่วยให้เซลล์ผิวชุ่มชื้น มีน้ำหล่อเลี้ยงปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
ป้องกันการติดเชื้อจุลินทรีย์ที่ผิวหนัง การเกิดมะเร็งไฝช่วยลดการซึมซาบของรังสียูวี
เข้าสู่ผิวหนังป้องกันการสร้างเม็ดสีเมลานินซึ่งทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดจุดด่างดำ
ป้องกันการแข็งตัวและกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสตินและทำงานร่วม
กับเซลล์เม็ดเลือดในผิวหนังช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม

เบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “เบต้ากลูแคน 1,3-1,6”   เป็นใยอาหาร
เบต้ากลูแคนเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ มีลักษณะเจลเป็นโครงสร้างมีประจุ (ion)
ในตัวมันเอง จึงสามารถจับกับโมเลกุลกับโมเลกุลน้ำ ไขมัน หรืออนุมูลอิสระที่อยู่ใน
ร่างกายเมื่อถูกดูดซึมที่บริเวณเยื่อบุผนังลำไส้จะกระตุ้นการทำงานของลำใส้
กระตุ้นการขับถ่ายดูดซับสารพิษในลำไส้และสามารถอุ้มน้ำไว้ในโครงสร้างจึงเป็นการ
เพิ่มปริมาณน้ำในอุจจาระที่มีเชื้อโรคให้ขับถ่ายออกจากร่างกายได้ง่าย

นอกจากนี้การที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ จึงกลายเป็นอาหารของแบคทีเรียในลำไส้
ใหญ่ที่สร้างกรดแล็คติค แล้วไปยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียตัวร้าย เบต้ากลูแค
ยังทำหน้าที่ดักจับไขมันและน้ำดีไว้ในโครงสร้าง (น้ำดีผลิตจากคลอเลสเตอรอลใน
ร่างกาย) จึงเป็นการช่วยดึงคลอเลสเตอรอลออกจากร่างกายเพื่อมาผลิตน้ำดี ส่งผลให้
ระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกายลดลง

ความคิดเห็น

วันที่: Tue Jul 22 05:38:57 ICT 2025

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0