GTF ย่อมาจาก Glucose Tolerance Factor ที่มีอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อของร่างกาย และทำหน้าที่ในการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายให้เป็นปกติ เพราะการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู้เซลล์ในร่างกายจะต้องประสานกับอินซูลิน และตัวรับอินซูลิน เรียกว่า GTF ต้องร่วมกับอินซูลินทำปฏิกิริยากับตัวรับอินซูลิน GTF จะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุโครเมียม วิตามิน และกรดอะมิโน
ตามปกติคนเราได้รับธาตุโครเมียมจากอาหาร แร่ธาตุโครเมียมเปลี่ยนแปลงเป็น GTF และเป็นตัวช่วยการเผาผลาญน้ำตาล ถ้าบุคคลนั้นมีธาตุโครเมียมกักเก็บไว้นาน ร่างกายเขาจะผลิต GTF น้อยลง และน้ำตาลกลูโคสจะถูกย่อยโดยระบบย่อยอาหารเพื่อซึมเข้าสู่เซลล์ และเปลี่ยนเป็นพลังงาน การรวมกันของน้ำตาลในเลือดเก็บกักจนเต็มในไต คนนั้นจะแสดงอาการของโรคเบาหวาน และน้ำตาลส่วนเกินจะขับออกมาทางปัสสาวะ GTF จึงมีบทบาทสำคัญในการดูดซึมน้ำตาลของไต
อย่างไรก็ตามน้ำตาลในเลือดมีการรวมตัวกันสูงขึ้นกว่าปกติเป็นระยะเวลานาน เมื่อการบริโภค GTF เพิ่มขึ้นร่างกายก็จะพยายามดูดซึมน้ำตาลส่วนเกินอีกครั้ง GTF มีหน้าที่ขับถ่ายออกทางปัสสาวะโดยท่อของไต ซึ่งทำให้สูญเสียอย่างรุนแรง แร่ธาตุจะทำหน้าที่แทน และสาเหตุที่ไตหน้าที่การทำงานอย่างช้า ๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะในตับและไต GTF มีส่วนผสมที่ทำมาจาก แร่ธาตุโครเมียม วิตามิน และกรดอะมิโน GTF เป็นตัวช่วยควบคุมการเผาผลาญของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน ในร่างกายของมนุษย์ และ GTF จะเพิ่มความกระชุ่มกระชวยกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง เพิ่มการดูดซึมของสารอาหาร ควบคุมการทำงานและกลไกการออกฤทธิ์ในร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย
Article source: Dr. Mao Chia-hung (Doctor of endocrinology, University of Wisconsin)
GTF และ ธาตุโครเมียม
(1) ไม่มีในดิน
(2) ทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ อาหารที่ถูกสกัด
(3) มีน้ำตาลมากเกินไป
(4) ขาดการออกกำลัง
(5) คนอ้วนผิดปกติ ผลที่ได้คือ มีผู้เป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตั้งแต่ปี 1958 และเป็นเหตุให้ในปัจจุบันประชาชาติต้องออกงบประมาณให้เพื่อช่วยในเรื่องของ การดูแลสุขภาพของประชากร
กลไกการทำงานของ GTF
การทำงานของ Davis และ Vincent ได้แนะนำเกี่ยวกับการทำงานของโครเมียมที่มีโมเลกุลน้ำหนักเบา มีการบีบรัดสารโครเมียม (LMWCr, เรียกว่า GTF) The oligopeptide ประกอบด้วยกรดอะมิโน กรดเกลือ 2 ตัว (glutamic, aspartic) ประกอบกันมากกว่าครึ่งของกรดอะมิโนที่เหลือ LMWCr พบโดยทั่วไปในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีหน้าที่ทำให้การขยายตัวของอินซูลิน เป็นไปโดยอัตโนมัติ หลังจากฮอร์โมนตัวรับอินซูลิน เป็นหน้าที่หลัก LMWCr อาจจะมีปฏิกิริยากับอินไซด์ที่กระตุ้นกรดอะมิโนกับอินซูลิน
ตัวรับอินซูลินเปลี่ยนรูปแบบการทำงานโดยการบีบรัดอินซูลิน ซึ่งกระตุ้นการเคลื่อนไหวของโครเมียมจากเลือดไปยังเซลล์อื่น ๆ ซึ่งเป็นผลให้ LMWCr ปล่อยสารจากเซลล์ผ่านกระแสเลือด และขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ และไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก
การเพิ่มระดับของอินซูลิน จะมีผลให้มีการเพิ่มการลำเลียงของ transferrin และขอบเขตการบรรจุโครเมียม
การนำเนื้อเยื่อกลับมาใช้ใหม่ ของอวัยวะสัมผัสที่มีความไวต่ออินซูลิน ผลที่ได้คือจะไปกระตุ้นการเคลื่อนตัวของ transferrin จากต่อมเล็ก ๆ ไปสู่เนื้อเยื่อ
ตัวรับอินซูลินที่ส่วนหน้าสามารถบีบรัดการอิ่มตัว transferring ซึ่งต่อมาก็ผ่านไปยังภายในรวมกับโลหะที่ปล่อยกรดค่า PH ในรูปของอะตอมเล็ก ๆ
จากการศึกษาแนะนำว่าให้นำเซลล์โครเมียมที่ผ่านตัวรับอินซูลินจากเลือดในขณะที่อินซูลินกระตุ้นเซลล์ให้ดูดซึมน้ำตาลในเลือด
ในความซับซ้อนของ โครเมียมทรานเฟอริน ที่จริงแล้วในการไหลเวียนของเลือดจากโครเมียม GTF ซึ่ง GTF ทำให้เซลล์ของร่างกายเผาผลาญน้ำตาลในเลือดในปริมาณที่เหมาะสม
ความปลอดภัยที่ใช้ผลิตภัณฑ์
หน้าที่หลักของ GTF คือทำให้น้ำตาลเป็นปกติ โปรตีนและการเผาผลาญในร่างกาย GTF ไม่มีสารพิษ จากการรายงานของการวินิจฉัยความปลอดภัย และการบริโภคอาหารต่อวันของอเมริกา (US ESADDI) พิสูจน์โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมของอเมริกา การบริโภคโครเมียมต่อวันไม่ควรมากเกิน 350 ต่อการใช้ยา (200 mcg) อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ระดับความปลอดภัยในส่วนอื่น ๆ แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น สังกะสี แมงกานีส เซเลเนียม และอื่น ๆ อยู่ที่ 2 ใน 7 ส่วนของอาหารที่รับประทานเข้าไป
ได้รับการยอมรับจาก สถาบันทดสอบความเป็นพิษ R. A. et. Al., หลังจากมีการทดลองใช้กับหนูเป็นเวลา 20 สัปดาห์ พบว่ามี โครเมียม คลอไรด์ 1 พันเท่าต่อการที่มนุษย์รับประทานแต่ละวัน ซึ่งไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นพิษ แสดงให้เห็นว่ามีความปลอดภัยกับมนุษย์ ไม่พบหลักฐานว่าผลกระทบที่เป็นพิษจากอาหารเสริมโครเมียมในการศึกษากับมนุษย์ ดังนั้น GTF เป็นธาตุที่ปลอดภัยต่อการบริโภค
วันที่: Tue Jul 22 05:38:04 ICT 2025
|
|
|