Support
Health-Cared
081 7704741 , 080 2698000 (whatapp)
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

วิตมินอี

วันที่: 2013-08-10 14:21:21.0

 

 วิตามินอี เป็นอาหารที่มีประวัติการค้นพบมานานกว่าศตวรรษ   จัดอยู่กลุ่มวิตามินชนิดละล่ยในไขมัน (fat soluble vitamin) มีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายน้ำมัน สีเหลืองอ่อน ไม่ละลายในน้ำ ละลายได้ในสารละลายไขมัน เช่น แอลกอฮอล์ อีเทอร์ วิตามินอีมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ จึงเรียกชื่อตามความหมาย คือ Tocopherol  มาจากภาษากรีก Tokos แปลว่า เด็ก (Children) และ Pheno แปลว่า ทำให้เกิด (to bear)


         วิตามินอีมีมากในพืชในสัตว์พบน้อยมาก อาหารที่ให้วิตามิน ได้แก่ อาหารจำพวก ผัก น้ำมัน ไข่ เนย ข้าวบาเลย์ ข้าว ข้าวโอ๊ต แม้ว่าความต้องการวิตามินอีของมนุษย์ไม่สามารถกำหนดได้แน่นอนว่า วันหนึ่งๆ คนเราต้องการปริมาณเท่าใด จากการศึกษาค้นคว้าของโภชนาการ พบว่า วิตามินอีป้องกันการเกิดออกซิเดชัน (antioxdation) ของกรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามินเอ แคโรทีน และวิตามินซี วิตามินอีในอาหารมีได้หลายรูปแบบ   ซึ่งจะมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน ชนิดที่มีประสิทธิภาพทางชีวภาพมากที่สุด คือ แอลฟา  alpha -Tocopherol เพื่อแสดงปริมาณที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๆ นักโภชนศาสตร์จึงได้เสนอให้ใช้หน่วยของวิตามินอีรวมเป็นมิลลิกรัม  alpha –Tocopherol equivalent แทนหน่วยสากล (Intenational Unit หรือ IU) ซึ่งคำนวณได้จากปริมาณ (มก.) ของ  alpha -Tocopherol ในอาหารและเพิ่มปริมาณอีกร้อยละ 20

 

วิตามินอี มักจะไปควบคู่กับวิตามินบีเสมอ ทางการแพทย์จึงเรียกว่า วิตามินพี่น้อง วิตามินอีมีส่วนช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและอาการหลอดเลือดแข็ง ทำให้การทำงานของหัวใจและการไหลเวียนของโลหิตเป็นปกติ   นอกจากนี้ยังช่วยเก็บออกซิเจน และลดคอเรสเทอรอลในโลหิต   ทำให้ไม่เกิดลิ่มในหลอดเลือด (thrombosis) ซึ่งเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ง่าย จึงอาจกล่าวได้ว่า   วิตามินอีเป็นยาอายุวัฒนชนิดหนึ่ง ในแง่ของชีววิทยา คนที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปี การทำงานของระบบต่างๆ จะเสื่อมลง เช่น ชีพจรเต้นช้าลง 15% โลหิตไหลผ่านไตลดลง 65% อาการเต้นของหัวใจลดลง 30% การทำงานปอดลดลง 60% การขาดวิตามินอีและการขาดออกซิเจนในโลหิต อาจเป็นสาเหตุใหญ่แห่งความชรา ผู้ที่ได้รับวิตามินอีอย่างสม่ำเสมอ   ตั้งแต่เยาว์วัยเรื่อยมา จะแก่ตัวช้าลงกว่าผู้ที่ขาดอาหารชนิดนี้

          ลักษณะเด่น ความเครียดที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidation  stress) เรียกย่อ ๆ ว่า OS ได้กลายเป็นคำที่มีความสำคัญในวงการโภชนาการ และการแพทย์ในศตวรรษที่ 21 ไปแล้ว เนื่องจาก OS มีส่วนทำให้เกิดโรคต่างๆ นับตั้แต่ต้อกระจกไปถึงโรคมะเร็ง ซึ่งตัวการสำคัญคือ ฟรี แรดดิคัล (free  redicle) ที่จะทำลายเซลล์ และเนื้อเยื่อของร่างกายอย่างมีขั้นตอน แพทย์พบว่ามีวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ เช่น หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิด OS โดยภาพรวมอาหารจากธรรมชาติ อาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการผลิต อาหารเสริมจัดเป็นสารป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ดีที่สุด

          สารแอนดิออกซิเดชันที่สำคัญ ช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี เบตา-คาโรทีน เซเลเนียม สะงกะสี แต่สารที่แพทย์สนใจค้นคว้าอย่างจริงจัง คือวิตามินอี เนื่องจกเห็ยว่ามีคุณค่าโดยตรงเกี่ยวกับโลหิตทำให้เลือดลมดี และหัวใจทำงานปกติ ปัจจุบันยังไม่พบว่ามีโทษ เหมือนเช่นยาหรือสารอื่นๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าร่างกายสามารถกำจัดออกได้ง่าย

 การตรวจวิเคราะห์วิตามินอี สามารถเลือกวิเคราะห์ได้ทั้งวิธีเคมี และใช้เครื่องมือ HPLC (High  Performance  Liquid  Chromatography) ในปัจจุบันวิธีหลังจะเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากสามารถตรวจทานได้  แม้ในปริมาณน้อยๆ การวิเคราะห์โดย HPLC สามารถเลือกได้ทั้งใน mode ของ normal phase หรือ reversed phase ปัจจัยที่มีผลต่อ retention time ของสารคือ polarity ของ mobile phase ย่างเดียวเท่า

 

 

วิตมินอียังมีประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งจะช่วยเร่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์

 

ทำให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น ช่วยในการจับตัวของรกกับผนังมดลูก

 

หากขาดกล้ามเนื้อจะไม่แข็งแรง เกิดการตกเลือด นอกจากนี้

 

ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคประสาทในระยะหมดประจำเดือนด้วย

 

และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยละลายเลือดที่แข็งตัวป้องกัน

 

การอุดตันของหลอดเลือด เช่น ที่หัวใจ และยังป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ด้วย